ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ด้วยสันติวิธี เราสามารถไปสู่สวรรค์ ตอนที่ 12 จาก 16 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
และเราจะร้องมัน เหมือนเพลงสุขสันต์วันเกิด พวกคุณจำกันได้แล้วหรือยัง? (จำได้ครับ) โอเค ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็เหมือนสวัสดีปีใหม่ โดยคำแรกคือ “สวรรค์” คำที่สองคือ “บนโลก” คำที่สามคือ “สรรพสัตว์” และคำที่สี่คือ “ปีใหม่ที่สงบสุข” ตอนนี้คุณยังจำได้ไหม? พวกคุณฉลาดไหม? (ค่ะ/ครับ) โอเค มาร้องเพลงกัน จีนก่อน เพราะเราอยู่ที่ไต้หวัน (ฟอร์โมซ่า) […] “สวัสดีปีใหม่นะ สวรรค์ สวัสดีปีใหม่แก่โลก สวัสดีปีใหม่นะ สรรพสัตว์ สวัสดีปีใหม่ที่สงบสุข" ตอนนี้ภาษาอังกฤษ ดีมาก! เราขอให้โลกเกิดสันติภาพ สันติสุขทั้งในสวรรค์และบนโลก สันติสุขจงมีแก่ทุกคน สันติสุขจงมีแก่สรรพสัตว์ บางทีปีนี้ อาจจะเป็นปีแห่งความสงบสุขก็ได้ […]

ก็จะเกิดความสงบสุข เหมือนอย่างที่พระเจ้าได้ตรัสไว้ว่า “จะมีความสว่าง!” แม้ว่าพระองค์จะตรัสว่า จะมีสันติสุข ก็อาจมีสันติสุขเช่นกัน เราหวัง! เราหวัง! ดูเหมือนว่า เราจะมีสันติภาพ และคงจะเร็ว ๆ นี้ ตามข่าวสารต่าง ๆ ที่เรามีอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าเราจะยังมี เรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างเล็กน้อย ระหว่างศัตรูบางคน ซึ่งบางที อาจเป็นศัตรูจากชาติที่แล้วก็ตาม พวกเขาจึงกำลัง แก้ไขปัญหาของพวกเขาอยู่ แต่ดูเหมือนว่า ตอนนี้เราจะมีสันติภาพมากกว่าที่เคย ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ? (ใช่ค่ะ/ครับ) และมันจะมี สันติภาพมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่จะต้องเป็น หากมนุษย์ต้องการที่จะอยู่รอด เพราะเราได้ทำลาย สิ่งที่งดงาม ที่เรียกว่า “แม่พระธรณี” มามากแล้ว

และฉันหวังว่า เรายังมีเวลาเพียงพอในการแก้ไข เพื่อแก้ไขมัน หรือซ่อมแซมมันอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้น ความสงบสุขจึงต้องเกิดขึ้น เพราะในสันติภาพ เราสามารถสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ได้ โดยสันติเท่านั้น เราจึงจะสร้าง ความสัมพันธ์ของมนุษย์ขึ้นมาใหม่ได้ ด้วยความสงบเท่านั้น เราจึงสามารถไปถึงสวรรค์ได้

เราไม่มีทางอื่นใดเลย ที่จะอยู่ร่วมกันได้ ยกเว้นอย่างสันติ มีสิ่งสำคัญอื่น ๆ ในโลก ที่ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่า จะต้องทำมากกว่าการหยิบปืนขึ้นมา แล้วยิงใครสักคน นี่เป็นสิ่งเล็กน้อยที่สุด ที่เราสามารถคิดได้ เราไม่ควรคิด เรื่องแบบนั้นเลย ตลอดชีวิตของเรา แต่พี่น้องของเรา ได้ตื่นตัวขึ้นบ้างแล้วถึง เหตุอันเร่งด่วน สำคัญ และต้องเป็นเหตุนี้ มันเป็นสาเหตุของความสงบสุข ทุกคนพูดถึงสันติภาพ แต่เราต้องทำบางสิ่งบางอย่าง เพื่อมีส่วนสนับสนุนให้เกิดสันติภาพ โดยการรักเพื่อนบ้าน ด้วยการหยุดทำสิ่งใด ๆ ที่เราคิดและรู้ว่าผิด

อะไรผิด เราจะหยุดทันที อะไรถูกต้อง เราจะทำทันที และมันเป็นวิถีชีวิต ที่เรียบง่ายมาก เราไม่จำเป็นต้อง มองหาสวรรค์จากที่อื่น เว้นแต่เราจะมีความสงบสุข กับเพื่อนบ้าน และภายในตัวเราเอง อย่างที่ฉันบอกคุณหลายครั้งแล้วว่า ชายหนุ่มหรือหญิงสาว จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จากความรักที่ได้รับจากพ่อแม่ พวกเขาได้รับความรักมา ตั้งแต่เกิด ก่อนที่พวกเขาจะเกิด หลังจากที่พวกเขาเกิด และขณะที่พวกเขากำลังเติบโต พวกเขาก็ เจริญเติบโตในความรักของพ่อแม่ เพื่อนรัก คนรัก คู่สมรสและลูก ๆ ที่รักของพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงควรเติบโต และใช้ชีวิตแบบนั้น – ด้วยความรักและความสงบสุข

ไม่มีใครบนโลกนี้ ที่จะเปลี่ยนความรักนั้น ให้เป็นความเกลียดชัง และทำให้ผู้คนออกไป ทำลายความรักนั้น และทำลายความรัก ของคนอื่นที่ไม่ได้ ทำอะไรกับเขาโดยตรง นั่นมันผิด นั่นมันผิดอย่างแน่นอน! แม้แต่ในสายตามนุษย์ ก็ไม่ควรพูดถึง ในสายตาของพระเจ้า เราไม่จำเป็นต้อง นำเรื่องพระเจ้ามาพูดคุย ก่อนที่เราจะเริ่มทำสิ่งที่ถูกต้อง และอยู่ร่วมกัน อย่างสันติ

เรามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำมากมาย เรามีความหิวโหยที่จะแก้ไข เรามีลูก ๆ ที่ต้องอดอาหารจนตาย เรามีคนสูงอายุ ที่ไม่ได้รับการดูแล เรามีชาวสัตว์ ที่ถูกละเลย ถูกทารุณกรรม เราต่างมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมายที่นี่และที่นั่น และ ปัญหาใหญ่ ๆ มากมายที่นี่และที่นั่น ที่เราควรดูแล เพื่อให้ชีวิตบนโลกนี้ สวยงามยิ่งขึ้น เราไม่อาจสูญเสีย พลังงาน เวลา และเงิน ไปกับการฆ่าได้ เราจะต้องใช้เวลา และพลังงานของเราในการมีความรัก และสร้างสันติภาพ เพราะถ้าเราไม่หยุด สงครามตอนนี้ ทุกคนรู้ดีว่า เราจะ ไม่มีเวลาสำหรับสิ่งอื่นใดอีกแล้ว บางทีผู้ชนะและผู้แพ้ในสงคราม อาจตายเร็วกว่า สงครามสิ้นสุด หากโลกของเราล่มสลาย ฉันได้บอกคุณไปหลายครั้งแล้ว ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำอีก

แต่ สิ่งหนึ่ง: ฉันต้องขอบคุณ สมาชิกสมาคมของเรา ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราประสบภัยธรรมชาติ และภัยพิบัติ ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์มากมายทั่วโลก แต่คุณได้มีความเมตตากรุณา และขยันขันแข็งอย่างยิ่ง ในการช่วยเหลือพี่น้องของคุณ ที่ต้องการความช่วยเหลือ และฉันต้องขอบคุณคุณมาก ๆ ฉันภูมิใจในตัวคุณมาก ๆ โอ้ ขอโทษ ฉันก็พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน

ว้าว! โอ้ พระเจ้า! ฉันตั้งใจจะพูดภาษาจีน เมื่อเริ่มต้นแล้ว ฉันก็จะพูดจนจบ และจากนั้นฉันจะพูดเป็นภาษาจีน โอเค! แปลว่า "สันติภาพ" โอเคไหม? แค่นั้นแหละ ฉันลืม ฉันพูดภาษาอังกฤษ ฉันไม่รู้ว่า ทำไม? ฉันจะพูดภาษาจีนทีหลัง โอเคไหม? (ตกลงค่ะ/ครับ) เพราะที่นี่ ก็มีคนต่างชาติด้วย ต่อไป ฉันจะพูดภาษาจีน คุณมีคำแปลไหม? โอ้ คุณมี "หูวิเศษ" ของคุณ โอเค มาพูดภาษาจีนกันเถิด

สิ่งที่ฉันหมายถึงคือ ทุกคนในโลกนี้ ควรมีสันติสุขต่อกัน เพราะถ้าสงครามยังดำเนินต่อไป เราคงไม่มีเวลา เพื่อซ่อมแซมโลกที่สวยงามของเรา แล้วลูกหลานเรา รุ่นต่อ ๆ ไป จะไม่มีที่อยู่ เราอาจถูกทำลายไปหมดสิ้น ไม่สำคัญว่า เราจะพังทลายหรือไม่ เพราะตัวเราเอง ได้พบกับพระเจ้าแล้ว เรามีประกัน แต่พวกเรายังควร อนุรักษ์โลกนี้ไว้ และรอให้ พี่น้องของเราตามทัน เพราะหากพวกเขาตาย อย่างกะทันหันและน่าเวทนาเช่นนั้น จิตวิญญาณของพวกเขา จะตื่นขึ้นและเป็นอิสระได้ยาก เพราะเหตุนี้ เราจึงรอคอย

ในขณะที่เรารออยู่ เราก็แก้ไขอะไรก็ตาม ที่เราสามารถ แก้ไขได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อนร่วมการประทับจิต สหาย มิตรสหาย และคนที่เรารัก เราควรเริ่มต้นที่ตัวเราเอง เช่น เราประหยัดพลังงาน ฉันมักจะบอกคุณว่า เราควรใช้ หลอดประหยัดไฟ ซึ่งเราก็ได้ทำแล้ว ตอนนี้ หากเราสามารถ ซื้อรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษได้ ก็ซื้อเลย หากเราสามารถเดินทางไปทำงาน ไปซื้อของ ไปรับส่งลูกไปโรงเรียน ฯลฯ ด้วยรถคันเดียวกันได้ ก็ควรไปด้วยกันในรถคันเดียว ใช้รถคันเดียวกัน เพื่อ ประหยัดพลังงาน เชื้อเพลิง และลด การปล่อยสารพิษให้เหลือน้อยที่สุด เมื่อเราอยู่บ้าน เรารีไซเคิลทุกสิ่ง ที่สามารถรีไซเคิลได้ เช่น การประหยัดน้ำ เดิม น้ำก็ฟรีเช่นกัน แต่เราต้องใช้ไฟฟ้า เพื่อจ่ายน้ำให้บ้านของเรา ดังนั้น น้ำก็เลย ใช้พลังงานมากเช่นกัน ไฟฟ้าก็ใช้ พลังงานมากเช่นกัน ฉะนั้น เราจะเก็บประหยัด เท่าที่เราประหยัดได้ ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องการช่วยโลกนี้ด้วย ฉันบอกคุณหลายครั้งแล้ว เข้าใจไหม? (เข้าใจค่ะ) คุณยังจำได้ไหม? โอเค

อย่ารอเพื่อนบ้าน อะไรก็ตามที่เราทำได้ เราจะทำมันก่อน เมื่อฉันกลับมาที่นี่ ฉันก็โดยสารแท็กซี่ไป คนขับแท็กซี่ก็ถาม ถามโน่นนี่อยู่เรื่อย ฉันบอกเขาว่า “ฉันกำลังประหยัดพลังงาน” ตัวอย่างเช่น ฉันมีรถยนต์ที่บ้าน ที่ไม่ปล่อยมลพิษใด ๆ เลย ซึ่งเป็นรถยนต์ ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นใหม่ และฉันก็เป็นวีแกนด้วย เมื่อไม่นานนี้ องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศว่า การเลี้ยงชาวสัตว์ เพื่อการบริโภคของมนุษย์ เป็นสาเหตุหลัก ในการผลิตก๊าซพิษจำนวนมาก ซึ่งเป็นอันตราย ต่อโลกของเรามากที่สุด ก๊าซพิษส่วนใหญ่ เกิดจาก การเลี้ยงชาวสัตว์ เราจึงเป็นวีแกน” ฉันยังบอกเขาอีกว่า “ฉันเป็นวีแกน ไม่ใช่แค่เพราะเหตุผลนั้นเท่านั้น แต่ก่อนอื่นเลย มันเป็นเพราะความเห็นอกเห็นใจ” แล้วเขาก็กล่าวว่า “ท่านเป็นวีแกนเพียงคนเดียว ในขณะที่ พวกเราสิบคนกินเนื้อชาวสัตว์ มันมีประโยชน์อะไร?” ฉันพูดว่า “ฉันสามารถเริ่มต้นได้ ด้วยตัวเองเท่านั้น ถ้าทุกคนคิดแบบนั้น – ‘ฉันรอคุณ คุณรอฉัน' – เราจะบรรลุมันได้เมื่อไร? แล้วฉันก็จะดูว่า อะไรถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ฉันจะทำสิ่งนั้นก่อน ถ้าเพื่อนบ้านของฉันคิดว่า สิ่งที่ฉันทำถูกต้อง เขาก็สามารถทำตามได้ นั่นคงจะดีมากเลย หากเขาไม่ทำอย่างนั้น อย่างน้อย ฉันก็ได้ทำส่วนของฉันแล้วและ ได้ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของฉันแล้ว” ใช่ไหม? (ถูกต้องนะ)

ฉันพูดว่า “ถ้าฉันเห็นว่า สิ่งหนึ่งสิ่งใดถูกต้อง แต่ฉันไม่ทำ คนอื่นก็จะคิดเช่นเดียวกัน ทุกคนก็คงจะ คิดเหมือนกัน ถ้าทุกคนคิดแบบนั้น ก็คงไม่มีใคร ทำสิ่งที่ถูกต้องได้ ไม่มีใครทำอะไรเลย แม้ว่าจะเห็นว่า มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะว่า 'ฉัน' เป็นคนเดียวที่ทำมัน ส่วนอีกสิบคนไม่ใช่ มันมี ประโยชน์อะไร? มันก็มีประโยชน์” มีประโยชน์ไหมครับ? (มีค่ะ/ครับ) ใช่ แล้วฉันก็พูดกับเขาว่า “ตัวอย่างเช่น ในจัตุรัสใหญ่ ๆ ที่มืดมาก ๆ การมีไฟสักดวงสองดวง ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย บางที ในบ้านหลังใหญ่โตมาก มืดสลัวมาก เมื่อคุณเข้ามาและจุดเทียน เพียงเล่มเดียว คุณมองเห็นอะไรมากมายไหม?” ใช่ไหม? (ใช่ค่ะ/ครับ) บ้านหลังใหญ่ ถูกความมืดมิดมานาน หลายร้อยหรือหลายพันปี แต่มันก็ไม่สำคัญ คุณแค่เข้ามาสักนาทีแล้วจุดเทียน จากนั้นคุณก็จะสามารถ ชมทัศนียภาพรอบ ๆ ได้ และแล้วมีคนอีกคนก็เข้า มาหาคุณ และเห็นคุณจุดเทียนเพื่อดูสิ่งต่าง ๆ เขาก็จุดเทียนเช่นกัน ยิ่งใช้เทียนอีกเล่ม ก็ยิ่งสว่างขึ้น นั่นคือ สิ่งที่เรากำลังทำ ทีละคน ทีละขั้นตอน เพื่อมีอิทธิพลต่อทุกคน

เราไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเลย เพราะความจริงก็คือ บางทีถ้าเราพูดมากเกินไป ก็ไม่มีใครอยากฟัง ไม่มีใครฟังเลย บางทีผู้คนก็ไม่สามารถ ได้ยินมันอย่างชัดเจน บางครั้งมีคนฟังเพียงไม่กี่คน เพราะตอนนี้คุณทำงานอยู่ที่ โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ ใช่ไหม? บางครั้งคุณก็เปิด วิดีโอการบรรยายของฉัน เมื่อนาน ๆ มาแล้ว ฉันก็ดูแล้วบอกว่า "อา!" คน ๆ นั้นพูดได้ดีมาก” แล้วฉันก็พูดว่า “แต่ใครกำลังฟังท่านอยู่? ไฉนเธอจึงต้องยุ่งวุ่นวายกับการวิ่งไป วิ่งมาเพื่อกล่าวสุนทรพจน์เหล่านั้น? ดูเหมือนจะมีคนเพียงไม่กี่คน ที่สนใจ สิ่งที่ท่านพูด”

อย่างไรก็ตาม ตัวเราเองก็ควรจะใส่ใจเรื่องนี้จริง ๆ เข้าใจ? มันเป็นปัญหาที่ร้ายแรงจริง ๆ เพราะเรายังอยู่ในโลกนี้ และขณะที่เรายังอยู่ในโลกนี้ เราควรพยายามอย่างเต็มที่ ในการปกป้องโลก และสรรพสัตว์ที่อยู่ที่นี่ เมื่อเราจากไปสวรรค์ เราไม่จำเป็นต้อง พูดถึงเรื่องนี้เลย แต่ในขณะที่เรายังอยู่ที่นี่ เราจะต้องซ่อมแซมและปกป้องมัน ในทำนองเดียวกัน หากคุณไม่อาศัย อยู่ในบ้านหลังนั้นอีกต่อไป เพราะถูกขายให้คนอื่นไปแล้ว คุณก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ในขณะที่คุณยังอาศัยอยู่ในบ้าน แน่นอนว่า คุณต้องซ่อมแซมและบำรุงรักษามัน เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง และเพื่อความปลอดภัย ของเพื่อนของคุณเช่นกัน หากคุณเชิญแขก มาที่บ้าน แล้วบ้านเกิดชำรุด และอาจพังลงมาได้ทุกเมื่อ นั่นคงไม่ถูกต้อง

มันไม่ใช่ว่า เราใส่ใจกับสิ่งของทางวัตถุ แต่ที่ไหนที่เราอยู่ ก็ควรซ่อมแซมใช่ไหมคะ? มันไม่ใช่เฉพาะสำหรับตัวเราเท่านั้น แต่สำหรับทั้งโลกด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นแง่มุมทางวัตถุ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ไม่สำคัญสำหรับเราเท่าใดนัก เพราะเรารู้วิธีกลับบ้าน สมมุติว่าเราไม่มีโลกนี้ เรายังมีโลกอื่นอีกมากมาย ที่ต้องไปอีก เราเองก็รู้เรื่องนี้ แต่หลายคนไม่รู้ แม้เราจะรู้ว่า มีโลกอื่นอีก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เรามีสิทธิ์ทำลายโลกนี้ได้ ใช่ไหม? (ใช่ค่ะ/ครับ) ไม่ต้องพูดถึงว่า เราก็อยู่ในโลกนี้ด้วย หากเราอยากไปสวรรค์ ก็ควรจะไปอย่างสบาย ๆ และสงบใช่หรือไม่? แทนเสียง “ปัง” และจากไปอย่างเจ็บปวดรวดร้าว ในไต้หวัน (ฟอร์โมซ่า) มีคำกล่าวที่ว่า: “ตายทั้งที่ยังลืมตา” เป็นภาษาไต้หวัน (ฟอร์โมซา) ฉันรู้

แต่ฉันก็บอกด้วยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวคุณมาก ให้เสียงปรบมือให้ตัวเองบ้าง เพราะคุณได้ช่วยอาจารย์ ช่วยโลกมากมาย ช่วยอาจารย์เพื่อช่วยโลกนี้ ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ หรือความทุกข์ยากที่ไหนสักแห่ง ฉันเพียงแค่เอ่ยถึงมัน แล้วคุณก็ไปต่อ คุณไปช่วยเหลือ และปลอบใจผู้ประสบภัย มันควรจะเป็นแบบนั้น นั่นคือ สิ่งที่มนุษย์ควรทำ

จริง ๆ แล้ว เราไม่ควรภูมิใจเลย แต่ฉันภูมิใจในตัวคุณมาก ทำไม? เพราะคุณเป็นผู้เรียนใหม่ คุณเพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้ และยังไม่ถึง ระดับที่สูงมากนัก บางคนก็สูง บางคนก็ต่ำ แต่ไม่ว่าจะระดับสูงหรือต่ำ คุณก็มีความรับผิดชอบอันหนักหน่วง ต่อโลก พวกคุณส่วนใหญ่มีญาติพี่น้อง เพื่อน ครอบครัว และลูก ๆ และมีงานทำ และความรับผิดชอบอีกมากมาย คุณต้องดูแลครอบครัว หาเงิน และดูแลตัวเอง มันเป็นงานเยอะมากจริง ๆ งานก็เยอะ มากจริง ๆ แม้กระนั้น ทุกครั้งที่โลกเกิดความทุกข์ คุณก็ยัง สละเวลา ความพยายาม และเงินทอง เพื่อไปช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยที่นั่น ไม่ใช่ว่าคุณเป็นกษัตริย์ หรือคนรวยมาก บางคนมีเงินมากมาย แต่คนที่ไม่รวย ก็ไปช่วยเหลือ บริจาคเงิน แรงกาย และแรงใจ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ฉันภูมิใจในตัวคุณมาก แต่คุณไม่ควร ภูมิใจในตัวเอง เข้าใจไหม? (เข้าใจนะ) ดีมาก เด็กชายดีและเด็กสาวดี
รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (12/16)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
38:04

ข่าวเด่น

40 รับชม
2024-12-20
40 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์